สรุปข่าว “น้องนุ่น” สาวสวยหายตัวปริศนา สุดท้ายพบ “สามี” เป็นคนฆ่า-เอาศพไปทิ้ง

เป็นประเด็นข่าวที่คนในสังคมกำลังให้ความสนใจอยู่ในตอนนี้ สำหรับข่าว “น้องนุ่น” อดีตพนักงานโรงงานผลิต ซองกันกระแทก ซองบับเบิ้ล สาวสวยที่หายตัวปริศนา ทำให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงต้องโพสต์โซเชียลตามหาตัว แต่สุดท้ายก็พบว่าเธอถูกฆาตกรรม และคนที่ลงมือก็คือ “ทอย” สามีของเธอเอง

ผัวสารภาพแล้ว ฆ่า “น้องนุ่น” ยอมรับมีปากเสียง ก่อนเอาศพไปทิ้งที่ปราจีนบุรี
ย้อนดูคำพูด สามี “น้องนุ่น” อ้างภรรยาหนีขึ้นแท็กซี่หายไป สุดท้ายสารภาพลงมือฆ่า
Sanook สรุปไทม์ไลน์ ไล่เลียงเหตุการณ์ทั้งหมดของ “น้องนุ่น” หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเป็นปัญหาที่สังคมไทยต้องเร่งแก้ไข

โพสต์ตามหา “น้องนุ่น”
ก่อนหน้านี้ ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์โพสต์หนึ่ง ซึ่งระบุข้อความตามหาเพื่อนชื่อ “นุ่น” ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ช่วงเวลาประมาณ 01.30 – 03.00 น. หลังจากวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ไปกินเลี้ยงวันเกิดสามีที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบนถนนเลียบด่วนรามอินทรา และแยกย้ายกันกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม อ้างอิงจากคำพูดของ “ทอย” สามีของนุ่น บอกว่าระหว่างทางกลับบ้าน นุ่นและสามีมีเรื่องทะเลาะกัน นุ่นจึงลงจากรถและหายตัวไป ทั้งยังไม่มีการติดต่อกลับมา ทำให้เพื่อนๆ และครอบครัวรู้สึกเป็นห่วง จึงโพสต์ข้อความตามหา

ทั้งนี้ สามีของนุ่นได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อย

จับโป๊ะ “ทอย”
หลังทอยเข้าแจ้งความ แม่ของนุ่นก็ได้เดินทางเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้การเพิ่มเติม ระบุว่า ได้สอบถามลูกเขยว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร เขาก็เล่าว่ามีปากเสียงกันระหว่างกลับบ้าน จากนั้นนุ่นก็ลงจากรถไปขึ้นรถแท็กซี่ แล้วหายตัวไปเลย ทางทอยจึงกลับมารอที่บ้าน แต่นุ่นก็ไม่กลับมา นอกจากนี้ ทอยยังบอกให้แม่ทำใจ พร้อมระบุว่าเขาจับ GPS ของนุ่นเป็นครั้งสุดท้ายได้ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจากคำบอกเล่าของทอย ก็ทำให้แม่ของนุ่นรู้สึกสงสัยในการกระทำของลูกเขย และตั้งคำถามว่าทำไมลูกเขยไม่ติดต่อครอบครัวของนุ่นหลังจากที่เธอหายตัวไป

ต่อมา ทอยได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับลูกน้อย ซึ่งเขาให้ปากคำว่า นุ่นเคยไปทำงานที่ปอยเปต และจุดสุดท้ายที่ GPS จับได้คือที่ชายแดนจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงคาดว่านุ่นอาจจะออกจากประเทศไปแล้ว ขณะที่ครอบครัวของนุ่นก็ต้องการให้ทอยไปชี้จุดที่นุ่นหนีลงจากรถไปขึ้นแท็กซี่ ก่อนหายตัวไป เพราะรู้สึกสงสัยในคำบอกเล่าของทอยเป็นอย่างมาก

ความจริงเปิดเผย นุ่นโดนฆ่า
ล่าสุด มีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด เวลาประมาณ 01:50 น. ของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทอยเป็นคนลากตัวนุ่นลงจากรถ และทำร้ายร่างกายเธออย่างรุนแรง แม้นุ่นจะพยายามวิ่งหนีแล้ว แต่ทอยก็วิ่งตามไปทำร้ายเธอและทำร้ายเธอต่อ จากนั้นจึงหยิบก้อนอิฐทุบศีรษะของนุ่น

ทอยทำร้ายนุ่นอย่างรุนแรงเป็นเวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น เขาจึงลากตัวนุ่นขึ้นรถเพื่อนำตัวกลับมาที่บ้าน โดยระหว่างนั้นนุ่นยังมีชีวิตอยู่ แต่ทอยก็กลับมาทำร้ายร่างกายนุ่นต่อที่บ้านจนนุ่นเสียชีวิต จากนั้นทอยก็ทำการอำพรางศพด้วยการยัดใส่กระเป๋าเดินทาง แล้วเช้าวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ก็นำศพไปทิ้ง

“บิว” ผู้ผดุงคุณธรรม
ระหว่างที่ทอยทำร้ายร่างกายนุ่นอยู่นั้น มีพลเมืองดีชื่อ “บิว” ขับรถผ่านมาเห็น แต่เขาคิดว่าเป็นสามีที่อุ้มลูกมาตามภรรยาที่เมา เขาจึงไม่ได้หยุดรถ บวกกับตรงนั้นมืดมาก จึงทำให้มองไม่เห็นรอยเลือด กระทั่งออกข่าวและเขาก็จำเหตุการณ์ได้ บิวจึงออกมาพูดความจริง

ขณะเดียวกันก็มีรายงานพบศพปริศนาถูกเผาอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมพบสร้อยข้อมือที่มีลักษณะคล้ายกับที่นุ่นใส่ในวันที่เธอหายตัวไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปพิสูจน์หลักฐานเพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้ง

คำสารภาพของ “ทอย”
เมื่อจำนนต่อหลักฐาน ทอยก็เปิดปากรับสารภาพว่าตนเป็นคนฆ่านุ่นเอง โดยใช้หินทุบที่หัวของเธอ หลังจากที่ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนจะนำศพใส่รถไปทิ้ง ซึ่งแรงจูงใจมาจากการหึงหวงประกอบกับอาการเมา

ทั้งนี้ ทอยยังยกมือไหว้ขอขมาแม่ของนุ่น พร้อมระบุว่าเป็นเหมือนความแค้นสะสมมาหลายอย่าง ไม่ว่าตนจะทำดีแค่ไหน นุ่นก็ไม่เคยมองว่าเขาดี และมักจะเอาเรื่องเดิมๆ มาทะเลาะซ้ำแล้วซ้ำอีก จนทำให้ตนโมโห สะสมเก็บกดสะสมมา ก่อนบอกว่าออกจากคุกมาก็คงไม่กล้าสู้หน้าครอบครัว ไม่มีหน้าไปเจอลูก

ย้อนดูโซเชียลทอยและนุ่น
เมื่อเกิดเรื่อง ก็มีการเปิดเผยโพสต์บนโซเชียลของทอย พบว่าตั้งแต่วันที่นุ่นหายตัวไป เขาไม่เคยประกาศตามหาตัวนุ่นแต่อย่างใด มีเพียงแชร์คลิปข่าวของนุ่น พร้อมแคปชั่นระบุว่า “ปั่นข่าวเกิ๊น”

ด้านเฟซบุ๊กของนุ่น โพสต์สุดท้ายของเธอเป็นภาพครอบครัวที่ถ่ายในงานเลี้ยงวันเกิดของสามี พร้อมข้อความระบุว่า “สุขสันต์วันเกิดนะที่รัก เป็นแฟนที่น่ารักของเขาแบบนี้ตลอดไปนะ ร่ำรวยๆ การงานราบรื่น สมหวังทุกปรารถนาน้า”

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำร้ายนุ่น
สำนักข่าวอมรินทร์ยังได้เปิดเผยคลิปวิดีโอเมื่อปี พ.ศ.2563 ที่แสดงให้เห็นว่าทอยกำลังทำร้ายร่างกายนุ่นอยู่หน้าลิฟต์ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นมีการแจ้งความ ก่อนไกล่เกลี่ยยอมความในที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยแชทข้อความของนุ่นที่ส่งให้เพื่อน ในปี พ.ศ.2565 ซึ่งเป็นภาพของนุ่นถูกทำร้ายร่างกาย มีรอยช้ำ เลือดในตาแตก ตาบวม โดยเพื่อนถามนุ่นว่า ยังไปคุยกับเขาหรือ เขาทำร้ายนะ ซึ่งทางนุ่นก็ตอบกลับว่าขอโทรหาได้ไหม ก่อนที่ทั้งคู่จะโทรคุยกัน

ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
สถิติความรุนแรงในครอบครัว ประจำปีงบประมาณ 2564 ของศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กองส่งเสริมสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า เพศหญิงตกเป็นผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว 81% ขณะที่เพศชายเป็นผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัว 86% ทั้งนี้ มีหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรง เช่น ยาเสพติด สุรา หึงหวง ความเครียดทางเศรษฐกิจ หรือมีความรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจมากกว่า เป็นต้น

“ความรุนแรงในครอบครัว” ผลลัพธ์จากระบบคิด “ชายเป็นใหญ่”

scpaperpacknews

scpaperpacknews