สลดอีก ลูกจ้างทหารอากาศชักปืนยิงเมียดับคาบ้านญาติฝ่ายหญิง ก่อนลั่นไกยิงตัวตายตาม เผยคำพูดสุดท้ายของฝ่ายชาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.10 น. พ.ต.ต.ไพบูลย์ โพธิ์ทอง สว. (สอบสวน) สน.สายไหม รับแจ้งเหตุผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ถนนสายไหม แขวงและเขตสายไหม กทม.
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในชุมชน บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา ที่บริเวณพื้นหน้าบ้านพบผู้เสียชีวิต 2 ศพ นอนทับกันอยู่ โดยศพด้านบนทราบชื่อว่า นายสุพจน์ อายุ 50 ปี สภาพศพสวมเสื้อกีฬาสีกรมท่า กางเกงขาสั้นสีดำ ถูกยิงที่ขมับขวา นอนตะแคงซ้ายคว่ำหน้าทับศพ นางสมลักษณ์ อายุ 61 ปีอดีตพนักงานขาย กล่องไปรษณีย์ กล่องพัสดุ บริษัทแห่งหนึ่ง สภาพศพสวมเสื้อยืดสีชมพูลายขวาง กางเกงขาสั้นสีดำ ถูกยิงที่กลางศีรษะ นอนหงายจมกองเลือด ใกล้กันพบอาวุธปืนสั้น ยี่ห้อรีวอลโว่ ขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก
จากการสอบถาม พี่สะใภ้ฝ่ายหญิง เป็นพยานเห็นเหตุการณ์ ทราบว่า นายสุพจน์กับนางสมลักษณ์ อยู่กินกันมา 16 ปี เมื่อสัปดาห์ก่อนฝ่ายหญิงจับได้ว่าสามีคบหาหญิงอื่น กระทั่ง 2 วันก่อนฝ่ายชายหลบไปอยู่ที่อื่น ก่อนกลับมาเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางญาติกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะนายสุพจน์มักเอาปืนออกมาโชว์ ญาติจึงรับนางสมลักษณ์มาอยู่ด้วย
กระทั่งช่วงเช้านายสุพจน์ โทรศัพท์ตามนางสมลักษณ์ให้มาทำเอกสารโอนรถจยย. ซึ่งเป็นชื่อของฝ่ายหญิง เมื่อมาถึงทั้งสองคนเข้าไปคุยกันในบ้าน แต่ตนไม่ได้ตามไปด้วย จากนั้นทั้งสองเดินออกมาหน้าบ้านเผื่อเซ็นเอกสาร ตนไม่ได้ดูเหตุการณ์
ต่อจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด พบหันกลับไปพบร่างนางสมลักษณ์ล้มลงกับพื้น จากนั้นนายสุพจน์หันกลับมามองหน้าตน พูดว่า “ขอโทษ ผมรักแอ๋วมาก” ก่อนยกปืนจ่อขมับตัวเองลั่นไก 1 นัด ตนตกใจวิ่งออกหน้าบ้านไป
สำหรับนายสุพจน์ ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวของกองทัพอากาศ ส่วนนางสมลักษณ์ ภรรยาเคยทำงานอยู่ที่เดียวกัน แต่ปลดเกษียณแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ สองสิงห์ ผกก สน.สายไหม กล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดมีญาติอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย มีพยานหลักฐานยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากนายสุพจน์เป็นผู้ก่อเหตุยิงฝ่ายหญิงเสียชีวิต จากนั้นใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองตายตาม คดีนี้ผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตทำให้คดีอาญาสิ้นสุด อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจากการตรวจสอบเป็นปืนผิดกฎหมายไม่มีทะเบียน
อย่างไรก็ตาม ได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และส่งศพผู้เสียชีวิตทั้งสองคนส่งนิติเวช โรงพยาบาลภูมิพลชันสูตรพลิกศพตามกฎหมายต่อไป