นักร้องสาว หวาย ปัญญ์ธิษา เจ้าของโรงงานจำหน่าย ลวดมัดปากถุงขนม / ลวดมัดปากถุง หวิดเอาชีวิตไม่รอด หัวใจเต้นผิดจังหวะ ขณะถ่ายงานต้องแอดมิทด่วน รับชีวิตรวนกลัวไปหมด ไม่กล้าทำกิจกรรมที่เคยทำ แม้กระทั่งนอนก็ไม่กล้า อีกทั้งยังอัปเดตสภาพจิตใจหลังเลิกแฟนหนุ่มคนล่าสุดพร้อมควงคุณแม่หน่อง มาเปิดใจผ่านทาง รายการคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
น้องหวายไปถ่ายรายการ แต่อยู่ดีๆ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดอะไรขึ้น?
หวาย : วันนั้นมีอาการเหมือนชาไปหมดตั้งแต่คอลงไปเลย แล้วก่อนหน้าวันนั้นระยะหนึ่งทุกเช้า หนูตื่นบอกคุณแม่ว่าทำไมหัวใจมันเต้นเร็วผิดปกติ เรารู้สึกแปลกๆ เพราะเพิ่งตื่นด้วย แต่ว่าเราเป็นโรคแพนิคอยู่แล้ว ก็เลยบอกตัวเองว่าอาจจะแพนิคหรือเปล่า คิดไปเองหรือเปล่า พยายามกล่อมตัวเองตลอด วันนั้นที่ไปทำงาน เราก็พยายามปลอบตัวเองเหมือนเดิมเวลาเราหายใจไม่ออก หรือเริ่มหายใจเร็ว ทำไมมันแน่นหน้าอก ก็บอกตัวเองว่าอย่าคิดมากนะ เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป เรากำลังจะแพนิคนั่นแหละ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันไม่ใช่
ตอนนั้นร่างกายตอบสนองเรายังไง?
หวาย : ตอนแรกเหมือนจะทำงานต่อได้ แต่ว่าสักพักหายใจไม่ออก เท้าชา มือช้า ปกติถ้า เท้าชา มือชา จริง แต่ว่าอันนี้มันแน่นหน้าอก มันชามาถึงคอแล้วก็หู ซึ่งมันทำอะไรไม่ได้เลย ปกติหนูจะรู้ตัวว่าเกร็งเท้านะ หรือมือเรากำลังเกร็งอยู่นะ แต่อันนี้ไม่รู้สึกแล้ว
แม่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย?
แม่หน่อง : อยู่ค่ะ ตอนนั้นคิดในใจว่าจะยังไงดี แต่ก็ลุ้นว่าเดี๋ยวก็ดีขึ้น ก็คิดว่าเป็นอะไร ก่อนหน้านี้คิดว่าจะเป็นลมก็ไม่ใช่ เพราะวันนั้นอากาศไม่ได้ร้อน ก็เดินชิวๆ ดูนู้น ดูนี่ คุยสนุกสนาน แล้วมันก็เกิดขึ้น เราเลยงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ทีนี้ทำยังไง?
หวาย : แม่ลุ้น ทุกคนพยายามช่วย
แม่หน่อง : ตอนนั้นให้นอนแล้ว ค่อยๆ จับตัว พอดีมีนักท่องเที่ยวเข้ามา เราก็ถามว่ายูเป็นหมอเหรอ เขาบอกว่าไม่ใช่แต่เขาเคยปฐมพยาบาล เขาบอกให้ถอดรองเท้า แล้วเขาเข้ามาบีบนวด เขาคงรู้ว่าเส้นเลือดอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วเขาช่วยอยู่อย่างนั้นหลายนาทีเลย
หวาย : หนูรู้สึกว่ามันนานมาก ตอนแรกหนูคิดว่าหนูจะตายจริงๆ หันไปบอกแม่ คิดว่าสโตรกแน่ เหมือนหนูจมน้ำ
คำพูดของหวายบอกกับแม่ว่ากำลังจะตาย มันไม่ธรรมดาแล้ว?
แม่หน่อง : แม่สายชิล ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แต่หวายก็ดึงตัวแม่มากอด
หวาย : ใช่ หนูคิดว่าหนูจะตาย
แม่หน่อง : เราก็ดูก่อนว่าจะเรียกรถหรือยังไง
หวาย : หนูเองด้วยอยากให้นางพยาบาลมา ไม่กล้าขยับตัวเองด้วย คิดว่าจะไป
ณ ตอนนั้นทำไมไม่เรียกรถพยาบาล?
แม่หน่อง : เกือบแล้วๆ เพราะพี่ที่นั่นก็บอกว่าเรียกรถไหม แล้วพอมีมีหน่วยพยาบาลของที่ตลาดนั้นเขาเอาอุปกรณ์มาช่วย เราก็ลองดูสักพักว่าจะโอเคไหม แล้วค่อยๆ เริ่มดีขึ้น
หวาย : หลังจากที่ทุกอย่างเกิดขึ้น หนูยังยืนยันกับแม่ว่าหนูไม่เคยเป็นแบบนี้ หัวใจหัวรู้สึกไม่ปกติจริงๆ ก็เลยหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต คุณแม่เลยนัดคุณหมอหัวใจเลย
เดิมทีคิดว่าเป็นสโตรกถึงกับเอาน้ำราดหัวเลย?
หวาย : ใช่
แม่หน่อง : ตอนแรกราดหน้าก่อน เพราะว่ากลัวเดี๋ยวถ่ายรายการต่อ พอทำไป ทำมา ไม่ไหวแล้ว เขาหยิบเองราดเลย
หวาย : แล้วตอนราดอันนั้นคือก่อนที่มันจะชาด้วยนะ เพราะหนูบอกตัวเอง ยังคิดว่ามันจะแพนิคอยู่ ยังไงก็หาย ตอนแรกราดหน้าก่อนมันจะได้ตื่น แต่มันไม่ใช่
คนที่หัวใจเต้นผิดจังหวะ มันจะรู้สึกเจ็บ เรามีอาการแบบนี้ไหม?
หวาย : มันแน่น มันไม่ได้เจ็บเหมือนมีใครมาแทง แต่หนูรู้สึกว่ามันแน่นตั้งแต่ตรงท้องขึ้นมา เหมือนมันบีบ
สุดท้ายไปหาคุณหมอ คุณหมอบอกว่ายังไง?
หวาย : หัวใจเต้นผิดปกติ
พอคุณหมอบอกเราเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เราจัดการกับโรคนี้ยังไง?
หวาย : ด้วยความที่หนูเป็นโรคแพนิคด้วย ยังคิดอยู่กับตัวเองว่ามันแพนิค แต่ว่าในขั้นที่เราไม่เคยเป็นหรือเปล่า แต่พอไปคุยกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่าอยากให้ติดเครื่องมอนิเตอร์ห้วใจ ถามว่ามีแอปเปิ้ลวอชใช่ไหม ซึ่งตัวหวายเองก็มีแต่ไม่ใส่ คุณหมอบอกให้ใส่ อยากให้ติดมอนิเตอร์หัวใจวันนั้นเลย อยากให้แอดมิท รอดูอาการด้วย แต่ว่าหนูยังไม่อยากติด และยังไม่อยากแอดมิท ก็เลยบอกว่าถ้าหนูกลับไปใส่แอปเปิ้ลวอชก่อนได้ไหม คุณหมอบอกว่าได้ ลองกลับไปพักที่บ้านก่อน ทีนี้พอกลับไปหาคุณหมออีกที สรุปมันเต้นไม่ปกติจริงๆ
สรุปเป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะจริงๆ?
หวาย : ใช่ ก็เลยต้องติดเครื่องกลับบ้าน ยืนยันกับเครื่องและแอปเปิ้ล วอช ทั้งคู่เลยว่ามันเต้นผิดจังหวะจริงไหม ปกติต้องต่ำกว่า 100 แต่ของหนูขึ้นไป 168-170 ตอนแรกหนูไม่รู้นะว่า 168-170 มันไม่ดี ก็ต้องติดเครื่องไปตลอด ตอนนี้คุณหมอให้ทานยาทุกเช้า ทุกเย็น แล้วหัวใจมันจะเต้นช้าลง