เมียดาบตำรวจ ท้อง 6 เดือน ถูกแก๊งน้ำมันเถื่อนยิงจนตายตามสามีไป แต่สิ่งสุดท้ายที่เธอทำ มีสติและกล้าหาญมาก
จากกรณีที่ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 พ.ค.67 ตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ รับแจ้งว่ามีคนสูญหาย จึงได้ประสานทางอาสาสมัครกู้ภัยร่วมลงทำการค้นหา บริเวณสระน้ำ พื้นที่ตำบลกรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีไม่พบ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการปูพรมค้นหาบริเวณป่ามันและป่าอ้อยก็ไม่พบอีกเช่นกัน จนเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจได้รับแจ้งจากชุดสืบสวน ว่า พบรถของคนหาย บริเวณสระน้ำกลางป่ามัน ในพื้นที่ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี โดยรถคันดังกล่าว อยู่ในสภาพถูกขับมาทิ้งไว้ จึงทำการตรวจสอบ และพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถของดาบตำรวจสกล บรรจุ ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ ด.ต.สกล และ น.ส. CHANSONE ชาวลาว ซึ่งกำลังตั้งท้อง 6 เดือน
ล่าสุด วันนี้ 14 พ.ค. 67 เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) แถลงผลการจับกุมคดี 4 คนร้าย ร่วมก่อเหตุยิง ด.ต.สกล บรรลุ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ อายุ 43 ปี และภรรยาชาวลาว อายุ 25 ปี ที่กำลังตั้งครรภ์ 6 เดือน เสียชีวิตภายในป่า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว รวมจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายชัยวิชิต มือปืนยิง ด.ต.สกล และภรรยา, น.ส.ธัญญา ภรรยาของนายชัยวิชิต, นายพิชิตพงศ์ ลูกชายของนายชัยวิชิต และนายธรรมรัตน์ ลูกจ้างของนายชัยวิชิต เชือกฟาง เชือกมัดของ
Advertisement
โดยก่อนเกิดเหตุ ด.ต.สกล พบกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นกลุ่มลักลอบจำหน่ายเอทานอลผิดกฎหมายรถสิบล้อบรรทุกเอทานอล และลักลอบซื้อ-ขายในรายทาง บริเวณป่ามันสำปะหลัง หมู่บ้านหนองหอย หมู่ 10 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเหตุซึ่งหน้า จึงเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มคนร้ายขัดขวาง จากนั้นนายชัยวิชิต ได้ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.สกล จำนวน 5-6 นัดจนเสียชีวิต ซึ่งภรรยาของ ด.ต.สกล ได้ส่งพิกัดจีพีเอส และข้อความแจ้งขอความช่วยเหลือพร้อมถ่ายรูปรถบรรทุกเอทานอล ส่งให้ตำรวจป้อมยามจุดที่พักสายตรวจกรอกสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของ ด.ต.สกล
ต่อมา นายชัยวิชิต ได้นำอาวุธปืนของ ด.ต.สกล มายิงภรรยาของ ด.ต.สกล จนเสียชีวิตภายในรถ ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะนำศพของ ด.ต.สกล และภรรยา พร้อมรถของผู้เสียชีวิตไปจอดทิ้งไว้ในป่า ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จนมีการติดตามพบในเวลาต่อมา จากนั้นผู้ต้องหาได้ทำลายหลักฐาน อาทิ นำโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตไปทิ้ง นำปืนที่ก่อเหตุไปฝัง ก่อนหลบหนีไป จ.นครนายก จนถูกตามจับกุมได้ทั้งหมด จากนั้นชุดจับกุมได้ตรวจสอบที่รถและบ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหา พบของกลางจำนวน 18 รายการ อาทิ อาวุธปืน AK-43 (อาก้า) ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก, ปืนยาวอัดลม จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนยาวขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนพกสั้น ขนาด.357 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวน 217 นัด และ ระเบิดมือลูกเกลี้ยง M67 จำนวน 1 ลูก
ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเอทานอลมาจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และได้สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) ซึ่งมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผอ.ศปนม.ตร. ขยายผลเพื่อนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกำชับ ตรวจสอบ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเชื้อเพลิงทั่วประเทศอย่างเข้มงวดต่อไป
