จากกรณีเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับดังเมืองสัตหีบ “เมาน์เทนบี” ในช่วงเวลา 01.00 ของวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา ริมถนนสายสุขุมวิท ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ใกล้โรงงานกล่องคราฟท์ กล่องกระดาษคราฟท์ ขณะที่มีนักท่องเที่ยวราตรีกำลังใช้บริการ 100 กว่าชีวิต โดยต้นเพลิงเริ่มไหม้บริเวณหลังคา ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วบริเวณ เนื่องจากวหลังคามีการฉีดพ่นโฟม สำหรับซับเสียง ซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย ประกอบกับช่องระบายอากาศ และทางออกด้านหน้าเปิดอยู่เพียงประตูเดียว ด้วยมีการคัดกรองนักเที่ยวตามมาตรการโควิด-19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกมาได้ทัน อีกทั้งยังมีกลุ่มควันไฟอย่างรุน แรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 รายในที่เกิดเหตุ และโรงพยาบาลอีก 1 ราย ร่วมเป็น 14 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 38 ราย
วันที่ 5 สิงหาคม 2565 ครอบครัวเหยื่อเหตุเพลิงไหม้ภายในผับเม้าท์เท่น บี จ.ชลบุรี ที่เสียชีวิต ทยอยเดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อติดต่อขอรับร่างของผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนา หลังวานนี้ได้ส่งทั้ง 13 ศพมาชันสูตรพลิกศพ และผ่าพิสูจน์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคล โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทั้งนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาติดต่อทำเรื่องเพื่อขอรับศพของผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ครอบครัว
นางอารีย์ มีชำนาญ แม่ของนายณฐกร มีชำนาญ อายุ 49 ปี พนักงานคุมเครื่องเสียง เปิดเผยว่า ทั้งนี้คิดว่าใช่ลูกชาย โดยได้บอกว่าลักษณะเป็นอย่างไร มีรอยสักยันต์อะไรหรือไม่ ซึ่งตนบอกไปว่าไม่มี พร้อมได้บอกชื่อ-นามสกุล อายุ และส่วนสูง ตอนเกิดเหตุกำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่ หลังทราบเรื่องก็เข่าอ่อน ช็อคตั้งแต่วานนี้ จึงโทรศัพท์ให้หลานออกไปรับ ก็คิดว่าเหตุที่เกิดขึ้นทำไมต้องเกิดขึ้นกับลูกเราทั้งที่ไปทำงานได้แต่พยายามที่จะปลง คนเราถึงเวลาก็ต้องไป และวันนี้เป็นวันเกิดเขาด้วย เขาก็คงจะหมดอายุของเขาแล้ว เราปลงแล้วแต่ก็นอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งนี้ลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่มีลางบอกเหตุอะไร โดยในคืนที่เกิดเหตุตนหลับสนิทและฝันว่าตนไปไหนไม่รู้กลับบ้านไม่ถูกและไปเจอเขา เลยจับมือเขาไปพร้อมเรียกว่านาย และตนบอกไปว่าจะพากลับบ้าน พยายามหาทางกลับแต่ก็หาไม่เจอ ไปเจอวัด เจออะไรไปเรื่อย ก่อนจะรู้สึกตัวในเวลา 06.30 น.
ด้านน.ส.ปาลิตา มีชำนาญ ลูกสาวของนายณฐกร เปิดเผยว่า เมื่อทราบเรื่องก็ช็อคไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้จะต้องทำอย่างไร ทราบว่าพ่อเสียชีวิตเพราะมีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งตามเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ที่ตัวและเห็นรายชื่อจากข่าว พ่อพึ่งไปทำงานที่ดังกล่าวได้ไม่กี่วัน ทางร้านจึงรู้แค่ชื่อเล่นและมาจากไหน แต่อาจไม่ทราบว่าญาติอยู่ที่ไหน โดยพ่อทำงานเป็นซาวด์เอ็นจิเนีย เมื่อคืนมีพนักงานของร้านติดต่อมาว่าจะช่วยเหลือแต่ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง โดยขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการดำเนินการจัดการเรื่องศพ ทั้งนี้จะนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดหนองปลาไหล จ.นครปฐม
ขณะที่ร้อยตรีสุพรรณ หินเธาว์ พ่อของ จ่าเอกสมรัฐ หินเธาว์ อายุ 31 ปี ที่เสียชีวิตจากการสำลักควัน เปิดเผยว่า กล่าวว่า ตนเองทราบข่าวตอนเวลา 06.00 น. มีคนโทรมาบอกให้พ่อทำใจ และส่งรูปให้ดูพบศพลูกชายตัวเองบริเวณหน้าห้องน้ำในผับที่เกิดเหตุดังกล่าว เมื่อวานที่ผ่านมา ลูกชายอยู่ตัวคนเดียวทำงานเป็นทหารเรือ ก่อนตายลูกโทรมาให้ช่วยเรื่องทำใบขับขี่ให้และจะกลับมาหาแต่มาเสียชีวิตก่อน ส่วนกรณีการช่วยเหลือนั้นขณะนี้ได้แจ้งความที่สภ.พลูตาหลวง และไปที่อบต.พลูตาหลวง เพื่อทำเรื่องเกี่ยวกับการเสียชีวิต รู้จากข่าวว่ามีคนจะเข้ามาช่วยเหลือแต่ขณะนี้ยังไม่มีการช่วยเหลือมาแต่อย่างใด โดยจะไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดสัตหีบ (วัดหลวงพ่ออี๋)