พบศพ รองอธิการบดี ม.ดัง อดีตบิ๊กกระทรวง วัย 82 ปี เสียชีวิตปริศนาคาอ่างอาบน้ำโรงแรม
เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้พบผู้เสียชีวิตในรถยนต์ หน้าโรงพยาบาลบางกรวย จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ บริเวณเบาะด้านหลัง พบมีร่างผู้เสียชีวิต ไม่สวมเสื้อผ้า ถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนสีขาว สภาพศพผิวหนังเริ่มลอก สีผิวเริ่มเปลี่ยน มีกลิ่นเหม็น ทราบชื่อต่อมาคือ นายพยุงศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 82 ปี
ส่วนคนขับรถนำร่างผู้เสียชีวิตมาส่งที่โรงพยาบาลคือ นายสมชาย ผู้จัดการโรงแรม และเจ้าของร้านขาย กระดาษไข กระดาษไขรองอบ ให้การว่า พบผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำในห้องที่โรงแรม แต่ห้องล็อกเข้าไม่ได้ จึงให้เจ้าหน้าที่ปีนเข้าไปเปิดประตู พบว่าผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล
ต่อมาภรรยาผู้ตายได้เดินทางมาที่โรงพยาบาล เมื่อตำรวจนำภาพให้ดูถึงกับเข่าทรุด ก่อนให้ข้อมูลว่า เพิ่งคุยกันกับสามีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เรื่องผู้ตายจะขอแยกทางกับตน ทนายยังไม่ได้ดำเนินการ ตนไม่อยากแยกทาง เพราะยังไปมาหากันอยู่ แม้จะอยู่คนละบ้านกับสามี
สามีเป็นอดีตเป็นรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม ก่อนหน้านั้น เคยเป็นอธิบดีกระทรวงศึกษาธิการ และเคยเป็นเลขาธิการกระทรวงวัฒนธรรม ส่วนรถที่ผู้เสียชีวิตขับมาเป็นรถของลูก ก่อนหน้านี้สามีมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบการหายใจผิดปกติ เคยรักษาตัวอยู่ เกี่ยวกับเรื่องการนอนกรน อาจเป็นไปได้ที่ลงไปนอนแช่ในอ่างน้ำแล้วเผลอหลับจมน้ำไป โดยเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งที่เชียงใหม่ แต่ในตอนนั้นมีคนอยู่ด้วย จึงช่วยเหลือไว้ทัน
ต่อมา พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธวัชชัย จงยิ่งเจริญ รอง ผกก.ป.สภ.บางกรวย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เดินทางเข้าตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุ ภายในห้องพักพบทรัพย์สินผู้เสียชีวิตวางอยู่ที่หัวเตียงครบ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ส่วนในห้องน้ำยังพบว่ามีน้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำ
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตมาติดต่อธุรกิจ เดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบในห้องพักยังพบเอกสารและทรัพย์สินอยู่ครบ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากโรคประจำตัว เพราะแพทย์ชันสูตรร่างผู้เสียชีวิต ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย ผิวหนังมีแผลถลอกเกิดจากการแช่น้ำอุ่น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7-8 ชม. ขณะที่ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แต่จะนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง