DSI เข้าค้นบริษัทผู้ต้องหาชาวไทย หลอกลวงคนไทยนับพันราย ไปเก็บผลไม้ป่าที่ “ฟินแลนด์” เรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 50,000 บาท
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2565 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจตรี สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ นำคณะเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจากกองคดีการค้ามนุษย์ กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กองปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และศูนย์คดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก บูรณาการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมูลนิธิไอเจเอ็ม ที่ให้การสนับสนุนเครื่องมือสำหรับตรวจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เข้าตรวจค้นบริษัทของผู้ต้องหาชาวไทยที่ถูกตำรวจฟินแลนด์จับกุมในข้อหาค้ามนุษย์ที่สาธารณรัฐฟินแลนด์ ตามที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานอัยการสูงสุดให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา พ.ศ.2535
สืบเนื่องจากทางการสาธารณรัฐฟินแลนด์ ได้ขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญามายังทางการไทย ให้ดำเนินการเข้าตรวจค้นบริษัทจัดหางานคนไทยไปเก็บผลไม้ป่าที่สาธารณรัฐฟินแลนด์ ที่ตั้งอยู่ในย่านรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจฟินแลนด์ได้จับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหาหญิงชาวไทยเจ้าของบริษัท 1 ราย และชายชาวต่างชาติเจ้าของโรงงานถุงเก็บผ้าสุญญากาศ ถุงสูญญากาศใส่เสื้อผ้าอีก 1 ราย ที่สาธารณรัฐฟินแลนด์ในข้อหาค้ามนุษย์
โดยมีพฤติการณ์ชักชวนคนไทยนับพันราย เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่สาธารณรัฐฟินแลนด์ มีการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 50,000 บาท แต่เมื่อเดินทางไปถึงประเทศฟินแลนด์แล้วจะถูกยึดหนังสือเดินทาง และบังคับให้ตกเป็นหนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ สูงเกินจริง ต้องทำงานไม่ต่ำกว่าวันละ 14-18 ชั่วโมง เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่ไม่เป็นธรรม อันเป็นการข่มขืนใจให้ผู้อื่นทำงานโดยการนำภาระหนี้สินหรือยึดเอกสารหนังสือเดินทาง จนผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จำยอมต้องทำงานเป็นการบังคับใช้แรงงานซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามค้ามนุษย์ ต่อมาองค์การพัฒนาเอกชน ชื่อ ริคุ ของประเทศฟินแลนด์ ได้รับแจ้งให้เข้าช่วยเหลือคนไทยจากแคมป์คนงาน จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาของตำรวจฟินแลนด์
ทั้งนี้ ปฏิบัติการตรวจค้นดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด และทางการฟินแลนด์ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ผลการตรวจค้นพบเอกสารการจัดตั้งบริษัท ข้อมูลแรงงานไทย เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์หรือ Berry Processing ที่ผู้ต้องหาใช้ในการโกงน้ำหนักผลไม้ป่า ทำให้แรงงานไทยเป็นจำนวนมากตกเป็นหนี้สินกับทางบริษัทฯ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะนำหลักฐานดังกล่าวส่งมอบให้กับทางการฟินแลนด์ ตามคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในทางอาญา
สำหรับการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการเพื่อเอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป.